Monday, July 21, 2014

ในวันที่ฝนพรำ

         


          อากาศเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเนอะ บางครั้ง แม้พยากรณ์จะบอกว่าวันนี้ ท้องฟ้าจะแจ่มใส แต่กลับมีฝนซะจนได้ ก็เหมือนชีวิตของคนเรานั้นแหละ เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน แต่เคยได้ยินคำคมที่ว่า ฟ้าจะใสหลังฝนไหม บางครั้ง เราต้องผ่าน 'สายฝน' ซะก่อน ถึงจะได้เห็นรุ้งที่สวยงามในชีวิต ^^
          เอาละ ในเมื่อใกล้ฤดูฝนแล้ว (อย่างน้อยก็แถวภาคเหนือน่ะนะ ฝนตกวันเว้นวันเลย) เรามาคิดวิธีไล่ความเหงาช่วงฝนตกกันเถอะ

          1. ในวันที่ฝนพรำ เป็นช่วงเวลาที่ควรอยู่บ้าน แล้วก็เปิดหนังดีๆ ซักเรื่อง ชอบหนังรัก หนังตลก หนังผีไง ก็จัดไป สำหรับพวกที่มีแฟน ก็นั่งดูด้วยกัน (น่าอิจฉาจัง) ส่วนพวกที่โสดอยู่ (อย่างตัวเราเอง เฮ้ออออ T^T) ก็ชวนเพื่อนๆ มาซะ ไม่ก็ดูหนังกับพ่อแม่พี่น้องก็ได้ จะได้มีเวลาให้ครอบครัวด้วย แล้วก็ทำป๊อปคอร์น อร่อยยยยยยย >_<
          2. ทำอาหาร ฝนตก ก็หนาวใช่ไหมละ ลองเข้าครัว ทำโจ๊ก (คือ เราทำอาหารไม่ค่อยเป็นอ่ะนะ เลยได้แค่อาหารสำเร็จรูปเนี่ยแหละ) ทำต้มจืด อาหารอะไรที่เป็นน้ำซุปอ่ะ ทำเผื่อคนอื่นด้วย เพราะเราจะไม่ได้แค่อุ่นกาย แต่อุ่นใจด้วย (กิ๊วๆ)
          3. เขียนในไดอารี่ บางครั้ง เราใช้เวลาส่วนมาก กังวนเกี่ยวกับชีวิตในอนาคตจนเกินไป หรือคิดถึงอดีตมากจนเกินไป จนลืมคิดถึงสิ่งดีๆ ในชีวิตประจำวัน งั้นลองนับสิ่งดีๆ ที่เรามี หรือที่ม่าเรียกว่า Count your blessing เช่น วันนี้ได้ทานอาหารอร่อยๆ ฝีมือคุณแม่ วันนี้รถไม่ติด วันนี้เพื่อนที่ไม่ได้คุยกันนานโทรมา เป็นต้น การที่เราเริ่มมองในด้านดีที่เกิดขึ้น จะทำให้เรากลายเป็นคนมองโลกในแง่บวกในระยะยาวด้วยนะ ลองดูๆ
          4. ทำความสะอาดห้องซะ ใช่ สิ่งที่เราทุกคน เกลียดที่จะทำ และคอยสัญญาตัวเองบ่อยๆ ว่าจะทำแต่กลับผลัดวันประกันพรุ่งน่ะ ไม่ดีๆ ลองเริ่มจากเอาดอกไม้ (สดๆ) ไม่ก็กระถางดอกไม้เล็กๆ มาวางไว้ในห้องสิ ม่าเคยลองแล้วนะ แค่เอาดอกไม้กลิ่นหอมๆ มาไว้ในห้อง ก็สามารถช่วงให้เราอยากทำความสะอาดห้องได้ ต่อจากนั้น ก็พับผ้าห่มซะ จัดเตียงให้เรียบร้อย เอาเสื้อผ้าที่ซักแล้วไปวางไว้บนเตียงแล้วก็พับ เก็บใส่ตู้ เก็บของมาวางไว้ และแบ่งเป็นกองๆ ว่า กองนี้เอาไปเก็บไว้เข้าที่ กองนี้เอาทิ้ง กองนี้เอาให้คนอื่น จากนั้นก็กวาดถู ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์นะ ^_^
          5. ถามตัวเองสิ ว่าเรารู้จักเพื่อนบ้านมากแค่ไหน ทำไมไม่ลองจัดปาร์ตี้เล็กๆ ชวนเพื่อนบ้านหรือห้องข้างๆ มาละ ไม่จำเป็นต้องเป็นงานใหญ่อะไร อาจจะมีน้ำโซดา (เช่นน้ำโค้ก น้ำสไปร์ น้ำแดง) ขนมเลย์ อาจจะมีลูกชิ้นก็ดีนะ จะได้ทำความรู้จักเพื่อนบ้านไง เผื่อเวลามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน 
          6. งัดรูปเก่าๆ ออกมาดูกับครอบครัวหรือเพื่อนๆ แล้วก็ระลึกถึงวันเก่าๆ ก็สนุกดีนะ ยิ่งถามคุณตา คุณยาย ให้เขาเล่าเรื่องสมัยก่อนให้ฟัง หรือถามคุณพ่อ คุณแม่ ว่าเจอกันยังไงนิ สนุกดี เป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย
          7. ออกกำลังกายเช่น โยคะ โดยส่วนตัวแล้ว เป็นคนที่เกลียดการออกกำลังกายมาก แต่อยากสวยก็ต้องดูแลสุขภาพนะคะ ทำโยคะระหว่างดูทีวีก็ได้ แนะนำให้ไปดูวีดีโอของ Blogilates  เจ้แกอยู่ในยูทูป ฟรีอีกต่างหาก มีท่าต่างๆ เช่น สำหรับคนที่อยากลดหน้าท้องโดยเฉพาะ ยืดกล้ามเนื้อ ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ
          8. เสียงฝนพรำบวกกับอากาศเย็นๆ นี่น่านอนมาก เปิดหน้าต่างให้ลมกลิ่นฝนเข้ามา แล้วก็พันตัวเองด้วยผ้าห่มซะ จากนั้นก็หายใจเข้าออกลึกๆ ให้หนังตาค่อยๆ ย่อนลง....... คร้อก ฟี้ๆ Zzzzzzzz
          9. ได้เวลาเสริมความสวยเสริมความหล่อละ อาบน้ำนานๆ หมักผมซะ แล้วก็งัดสีทาเล็บแจ่มๆ ออกมาซะ สำหรับคุณผู้ชายแล้ว ใช่ว่าจะทาสีทาเล็บไม่ได้ซะหน่อย สีใสๆ อ่ะ ดีนะ ป้องกันเล็บจากรอยขิดขูด ยิ่งพวกที่เล่นกีตาร์แล้วอ่ะ ทาแล้วดีเลย จากนั้นก็มาส์กหน้าซะหน่อย เดี๋ยวนี้เขามีให้เลือกเยอะ อยากผิวขาว ผิวชุ่มชื่น ซื้อตุนไว้ก็ดี หรือทำเองก็ได้ เพียงผสมโยเกิร์ตกับน้ำตาลทรายแดงด้วยกัน อย่างละ 2 ช้อนก็โอเคแล้ว สำหรับพวกที่อยากลบรอยสิวก็บีบมะนาวเพิ่มไปหน่อย กิ๊บเก๋มากค่ะ ^__^ 
          10. ไอเดียสุดท้ายคือ ไม่ทำอะไรเลย อยู่เฉยๆ ก็รีแลกซ์ได้นะ ฝนตกแบบนี้ ถ้าเราไม่อยากทำอะไรก็ไม่ต้องทำ เนอะ ^__^ ไม่มีใครมาสั่งเราได้ อ่า เว้นแต่เราอยู่กะพ่อแม่น่ะนะ แต่ถึงงั้นก็เถอะ เราอยากทำอะไร ไม่อยากทำอะไรซะอย่าง ห้ามมิได้หรอก หุๆ ^0^

ด้วยรักมากมาย

เจมม่า

Wednesday, July 16, 2014

A perfect day for me

Hmmm.... It would look like this.

8.00 AM I would wake up early from my sleep without feeling tired. Then going downstairs to make myself a cup of coffee and maybe a little breakfast with rice porridge, pad pak boong, eggs and some sausage. Yum.
9.00 AM I would spend the morning catching up on my reading with some soft music in the background.
11:00 AM Get ready by hopping into a warm shower and then do my makeup. Maybe have my hair up and wear a dress. Find those shoes that makes me taller. Or maybe just some flats would do.
12:00 PM I would have some lunch with a family member or a friend. Maybe have some noodles at that one restaurant that I love.
1:00 PM Get a little ice cream cone or maybe just a bubble green tea shake.
2:00 PM Spend the rest of the afternoon watching a movie or maybe Gossip Girl.
4:00 PM I would love to do a little yoga or some stretches.
6:00 PM Help my pa and ma cook supper. It doesn't have to be something big but maybe have some soup, rice, veggies and some kind of meat. Grilled Chicken and some homemade spicy sauce with a squeeze of lime?
7:00 PM Have dinner and then family devotion. Even though I am horrible with guitar but once in a while, it would be nice to play it with Pa. Some easy worship songs.
8:00 PM Watch a Thai drama with the fam. It's a fun family bonding time. We would critic on how the actress would have a full on make up to bed or how someone who is sick always have white lips even if it's just a fever. But because it's chessy, we like it.
10:00 PM Would love to facetime with the Family in the US. Miss them so much!
11:00 PM This is almost to the bed time. I would spend it showering. Then put on all those layered night creams and body lotion, yes! Then go on facebook, Instragram, Hotmail and Youtube. Watch Bubzvlogs. Her vlogs always brightens my day. Then finish with reading the bible on my Ipad.
12:00 PM Sleep with my puppy, Dodo, by my side :)

Much..much..love,
Gemma

Tuesday, July 15, 2014

ดีพอไหม

        เคยคิดว่าตัวเองไม่ดีพอไหม? เคยคิดว่าตัวเองไม่มีทางทำอะไรได้ในชีวิตไหม? เคยคิดว่าตัวเองไร้ค่าไหม? เคยคิดว่าตัวเองทำอะไรก็ไม่สำเร็จและต้องพึ่งคนอื่นไหม?
        งั้นลองฟังเรื่องของม่าไหมละ...
        มันก็ผ่านมาไม่นานอ่ะนะ ที่ม่าได้เป็นนักเรียนในรั้วมัธยม แม้ว่าม่าจะใช้เวลานั้นอยู่ที่อเมริกา แต่วัยรุ่นมันก็เหมือนกันทุกที่แหละเนอะ มานึกๆ ดูแล้ว ตอนที่ม่าอยู่ม.ต้นกะม.ปลายน่ะ มันไม่เหมือนกันเลย
        ตอนม.ต้น ม่าเรียนอยู่ที่เมืองไทย ตอนนั้น เป็นเด็กที่ไม่เหมือนคนอื่นเลย ภาษาเหนือก็พูดไม่เก่ง พูดไทยยังไม่ค่อยชัดเลย อ่ะนะ มีเพื่อนเยอะก็จริง แต่เข้ากับใครไม่ค่อยได้ เพื่อนสนิทจริงๆ น่ะ นับด้วยมือข้างเดียวยังได้เลยแหละ แถมตอนที่ได้รู้จักกับเพื่อนสนิทน่ะ ม่าแกล้งเค้ามากเลย เพื่อนคนนั้นชื่อว่าจี ตอนม.1 ม่าคบกับเพื่อนๆ ที่เคยเรียนอยู่ประถม แล้วก็ช่วยกันล้อจีกะฝาแฝดของจีที่ชื่อแจน เราชอบเรียกเขาว่า จานชาม ตลกดีนะ เราแกล้งเขาจนเขาโกธร แต่เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้เรามาเป็นเพื่อนกัน อาจจะเป็นเพราะเพื่อนที่เคยรู้จัก มาบอกว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยเห็นเราเป็นเพื่อนเลย อาจจะเป็นเพราะม่ามันเข้าคนไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้ว จีก็รับเราเป็นเพื่อน
        ม.ต้นอ่ะ ม่าจำได้ไม่เยอะเท่าไร จับได้เป็นภาพๆ น่ะ จำตอนที่ม่านั่งร้องไห้กับจีที่หน้าห้องภาษาไทยตอนที่โดนเพื่อนแกล้ง จำตอนที่ม่าวิ่งไล่จับกับเพื่อนชื่อกอล์ฟทั้งอาคาร จำตอนที่โกธรกับจีแล้วม่าเบื่อที่จะต้องไปง้อตลอด เลยโกธรกันเป็นอาทิตย์ แต่สุดท้ายก็ต้องกลับไปง้อ จำตอนที่เพื่อนๆ ใน 'แก๊งค์' มาทำงานที่บ้าน แล้วม่าก็ทำเรื่องอันน่าอับอายที่สุดแต่ไม่มีใครรู้ยกเว้นเพื่อนสามคนนั้น จำตอนที่โดนครูเรย์ ครูที่ดุที่สุดในโรงเรียนตีเพราะแอบเอาเครื่องสำอางไปโรงเรียน จำตอนที่ไล่ยืมแบตของเพื่อนๆ ในวันสอบตีแบต จำตอนที่เล่น hi5 แล้วก็พยายามแอดคนเยอะๆ จำตอนที่เต๊ะเพื่อนในห้องคนหนึ่งเพียงเพราะมันหล่อจนหน้าหมั่นไส้แต่เราเขิน เลยเต๊ะซะ ฮ่าๆ จำตอนงานกีฬาสี ที่ม่าไปรอเขาแต่งหน้าให้ตั้งแต่เที่ยงคืนแล้วก็ต้องรอจนถึงแปดโมงเช้า ถึงได้แต่ง จำตอนที่พี่ปลาไปหาครูแทนพ่อแม่ แล้วเพื่อนในห้องกลัวกัน ฮ่าๆ จำตอนที่หลับในคาบจนครูที่สอนปล่อยให้หลับจนเลยคาบเที่ยง แล้วทุกๆ วัน ม่าก็จะกินเมนูเดิมๆ คือ ลาบ ผัดลูกชิ้น และ แคบหมูพริกเผา บางวันก็อาจจะกินก๋วยเตี๋ยวหมี่เหลือง แต่ก็มีแค่สองอย่างนี้แหละ 
        เวลาผ่านไปเร็วมากอ่ะ แปปๆ ก็ม.ปลาย ได้มีโอกาสไปเรียนที่อเมริกา ได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำ เช่น ชมรมการแสดง เรียนร้องเพลง เข้าชมรมหนังสือพิมพ์โรงเรียน เป็นกัปตันทีมฟุตบอล เข้าทีมเต้นของโรงเรียน เข้าค่ายอาสาสมัครที่ประเทศแม็คสิโกกับโดมินิกัน รีพัพริค เรียนแต่งเพลง เรียนศิลปะ เรียนเย็บจักร และ อีกหลายอย่าง ลองหมด แต่เหมือนม.ต้น ม่าก็ไม่ได้ให้การเรียนเต็มร้อย 
        ไม่ว่าจะวิชาอะไร ม่าก็หาทางทำอย่างอื่น เช่น คุยกะเพื่อน เล่นกะแฟน อ่านหนังสือ ฟังเพลง กินขนม ซึ่งผลที่ได้กลับมาคือ คะแนนที่ไม่เต็มร้อยเช่นกัน
         ได้มองย้อนกลับไปแล้ว ม่าควรทำได้ดีกว่านี้ จริงๆ ม่าก็ไม่คิดว่าตัวเองโง่ แต่ขาดการคิดว่าตัวเองทำได้มากกว่า ตัวอย่างเช่น ม่าเกลียดคณิตมาก แต่พอทำความเข้าใจแล้ว กลับคิดว่ามันสนุก ตลกไหมละ วิทยาศาสตร์ที่ม่าไม่ชอบนักหนาตอนม.ต้น กลับเป็นหนึ่งในวิชาที่ม่าชอบที่สุด วิชานั้น ม่าจะตื่นเต้นทุกครั้งที่เข้าเรียน ยิ่งวิชาที่ต้องทดลอง โอ๊ยยยย! สนุกที่สุด ถึงขนาดร้องเพลงธาตุอ่ะ คิดดู (หาฟังได้ที่อินสตาแกรมนะ ไอดี khungemma) แต่ที่ทำให้ม่าแปลกใจมากที่สุดคงเป็นวิชาศิลปะ ตอนม.ต้น ม่าจะจ้าง (ใช้) จีให้ทำงานส่งครู เพราะคิดว่าทำเองไม่ได้ แต่พอได้มาลองวาดรูป ลองจับภูกันแล้ว แม้ว่ารูปจะไม่สวยงามที่สุดแต่มันก็คือความภูมิใจอย่างหนึ่ง ที่สิ่งที่ได้จินตนาการ สามารถถ่ายทอดออกมาได้ 
        ซึ่งผลก็มาจากการที่ม่าลองเข้าชมรมต่างๆ ที่ไม่เคยลองมาก่อน แม้ว่าตอนแรกๆ ม่าคิดว่ามันอาจจะไม่ได้ผล แต่พอม่าคิดซะว่า ถ้าลองแล้วชอบมาก็ดี แต่ถ้าไม่ชอบก็ลองอย่างอื่น มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคนอื่นแนะ แต่เกิดขึ้นเพราะการตัดสินใจของตัวม่าเองต่างหาก เพราะฉะนั้น อย่ารอให้มันถึง 'เวลา'
และ อย่ารอให้โอกาสมา แต่เปิดโอกาสให้ตัวเอง อย่าคิดว่าเราทำไม่ได้ เพียงเพราะเราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น มันต้องมีสักอย่างแหละ ที่เราเก่ง ไม่ว่าจะเป็น การร้องเพลง การแสดง การเล่นดนตรี การทำอาหาร การพูด แม้แต่การฟัง ใช่ บางคนก็เป็นผู้ฟังที่ดีนะ นั้นก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่งเหมือนกัน จริงไหม?
         ลองมองรอบๆ ตัวสิ ที่เราคิดว่าเราทำไม่ได้น่ะ มันเป็นเพราะอะไร เป็นเพราะฟังคนอื่นหรือเปล่า งั้นก็ถอยห่างจากคนๆ นั้นซะ เป็นเพราะเรามัวแต่ใช้เวลาจิ้มหน้าจอ อยู่กับอินเตอร์เน็ตหรือเปล่า งั้นก็วางลงซะ แล้วออกไปข้างนอก ไม่พึ่งคิดว่า เราทำไม่ได้หากเรายังไม่ได้ลองนะ 
         อะไรที่ผ่านมาแล้ว ก็ถือซะว่ามันเป็นอดีตแล้วก็นำประโยชน์ที่ได้กับมัน มาใช้ และ บอกต่อกับคนอื่นๆ อย่าคิด ว่าเราไม่ดีพอ คนอื่นจะสวยจะหล่อจะดีแค่ไหนก็ช่างเขา อย่าเอาเขามาเปรียบเทียบกับตนเอง แค่เราคิดว่าเราฉลาดพอ ดีพอ สวยหล่อพอ ก็ดีที่สุดแล้วละ มีความมั่นใจในตัวเองซะ 
         เราทำได้อยู่แล้ว ทำได้แน่นอน เราต้องสู้ต่อไป ลองอะไรไหมๆ ค้นหาสิ่งที่เรารักและก็ทุ่มเทกับมัน เนอะ ^^

ด้วยรักมากมาย

เจมม่า

Monday, July 14, 2014

The Powder Blue Room

     I have spend most of my summer in my bedroom. I know, I know. It's sad. Haha, but I don't know, I'm just a homie (?) person. I love to be in my own room and just chill.
     My room is small and it's connects to the living room. Which means, in the house of 11 people, they don't have to knock the door, don't need to even text - they just yell my name from across the house and I'll be able to hear it just fine.
     My room is a powder blue color with autumn pallet colors including gold, orange, light green and teal. The moment you open the door, you will be greeted by this black bookshelves. On top of it, is my "vintage" cameras that has been passed down from my father. Then there's books, lots of them. Most of it, I have read more than thrice. I didn't realized that I love books until recently. I'm mean, it does makes sense since whenever I go somewhere, I would bring at lease a book and well, my ipod of course :)
     But, staying in this room for so long, I feel like I have lost my creative side. Maybe it's just me. But waking up and being on the Internet is just isn't healthy. I recall those days when I can only be on the computer for one hour on school nights and two for weekends. Ha, those weren't fun. But it was good for me. I think that's what I should do too. Limit myself to maybe a couple hours a day and that's it.
      I should spend the rest of the time doing something outside. Maybe go visit a friend. Or go eat at some place new. Huh, sounds fun to me. Through out this summer, I have picked a new hobby which is guitar. It would be cool to bring my guitar to the park and play it. Well, that wouldn't be a good idea actually since someone died there. Sad.
      I have less than a month, less than 2 weeks even, to relax in this room before I go back to college and stay at the dorm with my new roommate whom I met a week ago. Her name is Se Ryun. She's pretty awesome :)
      Well, that's all I have to say for now. I haven't been writing in this blog a lot since I started a diary. But I will post on here more.

Much..much..love,
Gemma
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...